ในภูมิทัศน์การตลาดดิจิทัลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ผู้มีอิทธิพลมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้แบรนด์เชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมาย ประเทศไทยซึ่งมีฉากโซเชียลมีเดียที่คึกคักก็ไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าจะเป็นด้านความงาม แฟชั่น เทคโนโลยี และการท่องเที่ยว ผู้มีอิทธิพลในไทยกำลังกำหนดพฤติกรรมของผู้บริโภคและส่งมอบแคมเปญที่มีประสิทธิผล เมื่อเราเข้าสู่ปี 2024 การทำความเข้าใจเกี่ยวกับราคาของผู้ทรงอิทธิพลในประเทศไทยถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการปรับงบประมาณการตลาดให้เหมาะสม
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่ออัตราค่าอิทธิพลของไทย
ต้นทุนในการทำงานร่วมกับผู้มีอิทธิพลในประเทศไทยอาจแตกต่างกันอย่างมาก ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ:
จำนวนผู้ติดตาม
นาโนอินฟลูเอนเซอร์ (ผู้ติดตาม 1,000–ten,000 คน): โดยทั่วไปจะคิดอัตราที่ต่ำกว่า แต่ให้การมีส่วนร่วมสูงและกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ
ไมโครอินฟลูเอนเซอร์ (ผู้ติดตาม 10,000–fifty,000 คน): เป็นที่รู้จักจากความสามารถในการเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง Macro-Influencers (ผู้ติดตาม 50,000–500,000 คน): เข้าถึงผู้ชมที่กว้างขึ้นและเหมาะสำหรับแคมเปญขนาดกลางถึงขนาดใหญ่
Mega-Influencers (ผู้ติดตาม 500,000 คนขึ้นไป): มักเป็นคนดังหรือบุคคลสาธารณะที่มีการเข้าถึงจำนวนมากและมีราคาพรีเมียม
แพลตฟอร์ม
อัตราค่าบริการอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มที่ใช้:
Instagram: เป็นที่นิยมสำหรับแคมเปญไลฟ์สไตล์ ความงาม และแฟชั่น
Facebook: เรทราคา influencer ไทย 2024 เข้าถึงได้กว้างขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลและกลุ่มประชากรที่มีอายุมากกว่าของไทย
TikTok: ครองเนื้อหาวิดีโอรูปแบบสั้นโดยมีการมีส่วนร่วมสูงในกลุ่มผู้ชมที่อายุน้อยกว่า
YouTube: เหมาะสำหรับเนื้อหารูปแบบยาวที่เจาะลึก เช่น บทช่วยสอนและบทวิจารณ์
ประเภทของเนื้อหา
โพสต์แบบคงที่ เนื้อหาวิดีโอ เรื่องราวบน Instagram สตรีมสด และโพสต์บล็อก ล้วนมีโครงสร้างราคาที่แตกต่างกัน
อัตราการมีส่วนร่วม
ผู้มีอิทธิพลที่มีอัตราการมีส่วนร่วมสูงมักเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าเนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
กลุ่มอุตสาหกรรม
กลุ่มอุตสาหกรรมเฉพาะ เช่น การท่องเที่ยวระดับหรู เทคโนโลยี หรือฟิตเนส อาจมีผู้ทรงอิทธิพลที่เสนอราคาพรีเมียมเนื่องจากความพิเศษเฉพาะ
ขอบเขตของแคมเปญ
การร่วมมือครั้งเดียวมักจะถูกกว่าการร่วมมือระยะยาวหรือโปรแกรมทูตประชาสัมพันธ์
อัตราอาจเพิ่มขึ้นสำหรับข้อตกลงพิเศษหรือสิทธิ์การใช้งานเนื้อหา